วันที่ 18 มิถุนายน 2568 นายมรกต อนุเคราะห์ ผอ.สพป.เชียงราย เขต 1 เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมลูกเสือต้านภัยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 18 – 19 มิถุนายน 2568 เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีจิตสำนึก ตระถึงโทษ พิษภัยของยาเสพติด มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดและอบายมุข มีจิตอาสา มีจิตสาธารณะในการร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม รวมถึงสร้างแกนนำนักเรียนในการขยายผลในสถานศึกษา ให้กับลูกเสือ เนตรนารี จากโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จำนวน 25 โรงเรียน ใน อ.เมือง อ.เวียงชัย และ อ.เวียงเชียงรุ้ง จำนวนทั้งสิ้น 225 คน ประกอบด้วย ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด จำนวน 200 คน ผู้บังคับบัญชา จำนวน 25 คน โดยได้รับความเมตตาอนุเคราะห์สนับสนุนสถานที่ในการจัดกิจกรรมจากพระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง รับการสนับสนุนวิทยากรจากสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย และองค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ณ อาคารพบโชคคอมเพล็กซ์ วัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
ด้วยคณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดอยู่ในนโยบายการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีนำความปลอดภัยมาสู่ประชาชน โดยจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทยภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย” ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้าต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง รวมทั้งการ “ยึด อายัดทรัพย์สิน” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการสักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในประเทศ และดึงผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดออกจาการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด (พ.ศ.2566- 2570) ภายใต้กรอบมาตรการทั้ง 6 ด้าน 37 แนวทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดกิจกรรมลูกเสือต้านภัยยาเสพติด ในกลุ่มเป้าหมายพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติดที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(สำนักงาน ป.ป.ส.) กำหนด ในการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในพื้นที่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กและเยาวชนแต่ละช่วงวัยอย่างเหมาะสม ผ่านกระบวนการจัดการเรียน การสอน โดยเน้นการเสริมกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน เพื่อการป้องกันยาเสพติด รวมถึงการเปิดโอกาลให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กิจกรรมการกันยาเสพติด ในแต่ละกลุ่มทั้งกลุ่มเด็ก/เยาวชน และกลุ่มแรงงาน เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด และทักษะที่เหมาะสมในการไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติดทั้งในด้านการใช้และการค้ายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาครายใหม่